top of page
header-bg.png

e-LG (Electronic Letter of Guarantee) 
On Blockchain

Elevate your audit work with a powerful platform.

Ready to drive audit work into the digital age

หนังสือแจ้งการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) 

           บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด  (“บริษัทฯ”)  สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 5/13 หมู่ที่ 3 ชั้น 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 02-029-0200 Website: www.bci.network มีความประสงค์จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยหรือการดำเนินการใดๆ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น บันทึก รวบรวม จัดเก็บ ปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง ส่ง โอน เผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึง จำกัดการเข้าถึง ลบหรือการทำลาย  (“ประมวลผล”) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.     ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลได้แก่
1.1.   ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ ชื่อสกุล ตำแหน่งงาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งปกปิดศาสนาและกรุ๊ปเลือด
1.2.   ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์

1.     วัตถุประสงค์ในการดำเนินการประมวลผล กับข้อมูลส่วนบุคคล และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์

ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 เพื่อเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ

2.2. เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านในการเข้าใช้แพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ

2.3. เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่านในการลงนาม
ในคำขอฉบับนี้ 

2.4. เพื่อติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าโดยวิธีการส่งจดหมาย อีเมล์ หรือโทรศัพท์ เพื่อแจ้งข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการให้บริการให้ท่านทราบได้โดยสะดวก

2.5. เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่างๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย

2.6.    เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามหมายศาล หนังสือ หรือคำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงการรายงาน  หรือเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น หน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

•    ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการใช้บริการแพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ และเพื่อระบุตัวตนของท่านในการเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ

•    ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการจำเป็นระบุตัวตนของท่านในการเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับหนังสือรับรองทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์ม

•    ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ตรวจสอบตัวตนของท่านในการลงนามในคำขอฉบับนี้ 

•    ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการติดต่อ สื่อสาร เกี่ยวกับการธุรกรรม หรือนิติกรรมใดๆ ที่บริษัทฯ ทำกับท่าน

•    ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและหรือการไต่ส่วนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการต่อสู้คดี / การเตรียมคดี / การดำเนินคดี หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น   

•    ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 2 ในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย และความน่าเชื่อถือในการพิสูจน์ตัวตนหรือยืนยันตัวตนของท่าน หรือ บริษัทฯ อาจปฏิเสธท่านในการเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มและบริการของบริษัทฯ หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนในสัญญากับท่านได้

3.    แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากท่านโดยตรง  เช่น เมื่อท่านสมัครเข้าใช้บริการตาม แบบฟอร์มคำขอใช้บริการแพลตฟอร์ม กับบริษัทฯ และส่งมอบเอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ

4.    นอกจากบริษัทฯ จะดำเนินการจัดเก็บ หรือใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทฯ อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลอื่น ดังนี้

4.1.    ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอก ธนาคารแห่งประเทศไทย 
4.2.    ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ของบริษัท
4.3.    ที่ปรึกษาของบริษัทฯ
4.4.    ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทฯ ที่มีความจำเป็นต้องทราบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดหรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

5.    ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และแนวปฏิบัติของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในแฟ้มเอกสาร และ/หรือจัดเก็บเป็นไฟล์เอกสาร ใน Folder ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และ Share Drive บนซอฟต์แวร์ Outlook โดยจัดเก็บเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านและบริษัทฯ สิ้นสุดนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน  
           อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ

6.    สิทธิของท่านในฐานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทฯ ขอแจ้งถึงสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งท่านผู้เป็นเจ้าของส่วนบุคคลสามารถขอให้บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการได้ดังนี้
•    สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้
•    สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน 
•    สิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
•    สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
•    สิทธิในการขอให้ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
•    สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
•    สิทธิร้องขอให้ดำเนินการทำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์  
•    สิทธิในการร้องเรียนกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

7.    ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของหนังสือฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.    การเปลี่ยนแปลงหนังสือฉบับนี้ 

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงหนังสือฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในหนังสือที่สำคัญใดๆ พร้อมกับหนังสือฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม

9.    วิธีการติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในหนังสือนี้ ท่านสามารถติดต่อมายัง หน่วยงาน Legal & Compliance เลขที่ 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ห้อง 9-12 ชั้น 25 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หมายเลขโทรศัพท์ 02-029-0200 หรือ Email: legal@bci.co.th

bottom of page